ค่าใช้จ่ายในการเปิดบัญชีเงินฝากต่าง ๆ ในประเทศไทย
การเปิดบัญชีเงินฝากในประเทศไทยถือเป็นก้าวที่ชาญฉลาดสำหรับทั้งผู้ที่อาศัยอยู่และผู้ที่อาศัยอยู่ซึ่งหวังว่าจะจัดการเงินของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักศึกษา ชาวต่างชาติ ผู้ประกอบการ หรือผู้เดินทาง ธนาคารในประเทศไทยเสนอทางเลือกบัญชีเงินฝากที่หลากหลายซึ่งปรับให้เหมาะกับความต้องการที่แตกต่างกัน โพสต์นี้จะแนะนำคุณเกี่ยวกับประเภทของบัญชี ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง และรายละเอียดสำคัญที่คุณต้องการทราบขณะเปิดบัญชีเงินฝากในประเทศไทย
ประเภทของบัญชีเงินฝากในประเทศไทย
บัญชีการลงทุน
เหมาะสำหรับการธนาคารในชีวิตประจำวัน กองทุนการลงทุน และการได้รับเบี้ยประกันที่ไม่สำคัญ
บัญชีเงินฝากปัจจุบัน
เหมาะสำหรับองค์กรหรือบุคคลที่ต้องการแลกเปลี่ยนอย่างต่อเนื่องด้วยเช็ค
บัญชีเงินฝากประจำ
สำหรับบุคคลที่หวังจะประหยัดเงินในระยะยาวด้วยต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น
บัญชีเงินฝากที่ไม่คุ้นเคย
เหมาะสำหรับบุคคลที่จัดการมาตรฐานทางการเงินที่แตกต่างกัน เช่น ชาวต่างชาติหรือผู้ค้าต่างประเทศ ค่าใช้จ่ายในการเปิดบัญชีเงินฝากในประเทศไทย
แม้ว่าธนาคารส่วนใหญ่ในประเทศไทยจะเสนอบริการเปิดบัญชีเงินฝากขั้นต่ำหรือฟรี แต่ก็มีข้อกำหนดและค่าธรรมเนียมในการเริ่มต้นเปิดบัญชีเงินฝากที่ต้องพิจารณา นี่คือภาพรวมของธนาคารที่มีชื่อเสียงบางแห่งและตัวเลือกประวัติของพวกเขา:
- ธนาคารกรุงเทพ
บัญชีการลงทุน
การเปิดร้านน้อยที่สุด: 500 บาท
ค่าธรรมเนียมรายปีสำหรับ ATM/บัตรเช็ค: 200-300 บาท
ประวัติปัจจุบัน
การเปิดร้านน้อยที่สุด: 10,000 บาท
ค่าธรรมเนียมสมุดเช็ค: 200 บาท (ต่อสมุด)- ธนาคารกสิกรไทย (KBank)
บัญชีธนาคาร
การเปิดร้านน้อยที่สุด: 500 บาท
ค่าธรรมเนียมรายปีสำหรับบัตรเช็ค: 250 บาท
ประวัติร้านคงที่
การเปิดร้านน้อยที่สุด: 5,000 บาท (ผันผวนขึ้นอยู่กับระยะเวลา)- ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)
บัญชีการลงทุน
การเปิดร้านน้อยที่สุด: 500 บาท
ค่าใช้จ่ายบัตรชาร์จ: 200-350 บาทต่อปี
ประวัติเงินสดที่ไม่คุ้นเคย
การเปิดร้านน้อยที่สุด: 100 ดอลลาร์สหรัฐหรือเท่ากัน
ไม่มีค่าใช้จ่ายสนับสนุนรายปี- ธนาคารกรุงไทย
บัญชีธนาคาร
จำนวนการเปิดบัญชีขั้นต่ำ: 500 บาท
ค่าธรรมเนียมรายปีของบัตร ATM/เช็ค: 250 บาท
เอกสารรับรองการศึกษา (สำหรับนักศึกษาไทยเท่านั้น)
จำนวนการเปิดบัญชีขั้นต่ำ: 100 บาท
ค่าธรรมเนียมบัตรเช็คเลื่อนออกไปเป็นปีแรก- ธนาคารธนชาต (TMB)
บัญชีการลงทุนแบบไม่มีค่าใช้จ่าย
จำนวนการเปิดบัญชีขั้นต่ำ: 0 บาท (สำหรับบัญชีดิจิทัล)
ค่าธรรมเนียมรายปีของบัตรเครดิต: 300 บาท
สิ่งที่คุณต้องการเปิดบัญชีจริงๆ
ในการเปิดบัญชีในประเทศไทย คุณจะต้องมีรายงานที่แนบมา:
สำหรับผู้อยู่อาศัยชาวไทย
บัตรประจำตัวประชาชนหรือวีซ่าของไทย
สำหรับบุคคลภายนอก
วีซ่า
วีซ่าสำหรับผู้ที่ไม่ใช่บุคคลภายนอก (เช่น ใบอนุญาตทำงาน วีซ่าสำหรับนักศึกษา หรือวีซ่าเกษียณอายุ)
เอกสารยืนยันที่อยู่ในประเทศไทย (ใบเรียกเก็บเงินค่าบริการ สัญญาเช่า เป็นต้น)
จดหมายจากผู้จัดการหรือวิทยาลัย (ตามดุลพินิจ แต่มักกล่าวถึง) สำหรับองค์กร
รายงานการลงทะเบียนองค์กร
รหัสประจำตัวผู้เสียภาษี (หากเหมาะสม)
รหัสประจำตัวหัวหน้าที่ได้รับการอนุมัติและตราประทับบริษัท
จุดที่น่าสนใจในการเลือกบัญชีแยกประเภท
ร้านค้าเริ่มต้นและค่าใช้จ่าย
ตรวจสอบข้อกำหนดเบื้องต้นของร้านค้าพื้นฐานและค่าใช้จ่ายบัตรเครดิตประจำปี
ข้อดีของบัญชี
บันทึกบางส่วนมาพร้อมกับข้อดี เช่น การธนาคารแบบพกพา ค่าธรรมเนียมการเงิน หรือเงินคืนจากการแลกเปลี่ยน
การเข้าใช้ที่ง่ายดาย
รับประกันว่าธนาคารมีเครือข่ายสาขาและตู้เอทีเอ็มที่กว้างขวางเพื่อความสะดวกสบาย
การจัดการเงินสดที่ไม่คุ้นเคย
หากคุณเป็นชาวต่างชาติหรือผู้สำรวจ ให้พิจารณาบัญชีที่อนุญาตให้แลกเปลี่ยนที่ไม่คุ้นเคยด้วยค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่า
การธนาคารทางอินเทอร์เน็ต
ปัจจุบันธนาคารไทยหลายแห่งเสนอแอปพลิเคชั่นธนาคารที่มีความยืดหยุ่นสูง ทำให้การจัดการบัญชีเป็นเรื่องง่าย
ความสะดวกสบาย: เปิดบัญชีธนาคารจากบ้านของคุณโดยใช้โทรศัพท์หรือพีซีของคุณ
การโต้ตอบที่รวดเร็วยิ่งขึ้น: หลีกเลี่ยงการต่อแถวยาวที่ธนาคาร
เข้าถึงได้ตลอดทั้งวันทุกวัน: จัดการบัญชีของคุณได้ทุกเมื่อด้วยแอปพลิเคชั่นมือถือหรือเว็บแบงก์กิ้ง
เครื่องมือคอมพิวเตอร์: เข้าถึงคุณสมบัติต่างๆ เช่น การโอนทันที การชำระเงิน และตัวเลือกการลงทุน
ธนาคารชั้นนำที่ให้บริการเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์ในประเทศไทย
นี่คือรายชื่อธนาคารไทยชั้นนำที่ให้คุณเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์ได้:
ธนาคารกสิกรไทย (KBank)
ธนาคารสยามบิสซิเนส (SCB)
ธนาคารกรุงเทพ
ธนาคารกรุงไทย
ธนาคาร TMBThanachart (TTB)
ธนาคารเหล่านี้ให้บริการแอปพลิเคชั่นมือถือที่ใช้งานง่ายและระบบเช็คขั้นสูงสำหรับการสร้างบัญชี
สิ่งที่จำเป็นสำหรับการเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์
ในการเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์ในประเทศไทย คุณมักจะต้องมีสิ่งต่อไปนี้:
สำหรับชาวไทย:
บัตรประจำตัวประชาชน
หมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ลงทะเบียนในชื่อของคุณ สำหรับคนนอกประเทศ (ผู้พำนักอาศัยในต่างประเทศ):
วีซ่าถูกต้องตามกฎหมาย
หมายเลขโทรศัพท์ของประเทศไทย
หลักฐานที่อยู่ในประเทศไทย (เช่น สัญญาผู้เช่า ใบเสร็จรับเงินค่าบริการ)
ใบอนุญาตทำงานหรือวีซ่าถาวร (วีซ่านักเรียน วีซ่าเกษียณอายุ หรือวีซ่าธุรกิจ)
สำหรับผู้ที่ไม่ได้พำนักอาศัยในต่างประเทศ:
ธนาคารบางแห่งอาจขอให้คุณไปที่สาขาหลังจากลงทะเบียนล่วงหน้าทางออนไลน์เพื่อรับเช็ค
การโต้ตอบทีละขั้นตอนเพื่อเปิดบัญชีทางการเงินออนไลน์
ทำตามขั้นตอนพื้นฐานเหล่านี้เพื่อเปิดบัญชีของคุณทางออนไลน์:
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันพกพาของธนาคาร
ไปที่เว็บไซต์จริงของธนาคารหรือค้นหาแอปพลิเคชันบน Google Play Store หรือ Apple Application Store
รุ่น: K Plus (ธนาคารกสิกรไทย), SCB Simple (ธนาคารสยามบิสซิเนสแบงก์)- ลงทะเบียนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
กรอกข้อมูลที่จำเป็น เช่น ชื่อ-นามสกุล หมายเลขบัตรประชาชน หมายเลขวีซ่า วันเกิด และหมายเลขโทรศัพท์ 3. ยืนยันตัวตนของคุณ
ใช้กลยุทธ์เหล่านี้:
การยืนยันใบหน้า: แสดงใบหน้าของคุณโดยใช้กล้องในโทรศัพท์ของคุณ (KYC)- 3.ตู้ ATM: ธนาคารบางแห่งอนุญาตให้ยืนยันตัวตนผ่านตู้ ATM ที่มีตัวเลือกแบบไม่ต้องใช้บัตร
การกวาดล้างบัตรประจำตัวประชาชน: ประชาชนชาวไทยสามารถใช้บัตรประจำตัวประชาชนของตนเพื่อเช็คได้- เชื่อมโยงหมายเลขมือถือของคุณ
รหัส OTP จะถูกส่งจากเช็คไปยังหมายเลขโทรศัพท์ของคุณ- ตั้งค่ารายละเอียดบัญชีของคุณ
เลือกประเภทบัญชีของคุณ (เช่น กองทุนรวม กระแสรายวัน)
ตั้งค่าคุณสมบัติการเข้าสู่ระบบและรหัส PIN 6 หลักสำหรับการเข้าถึงแอปพลิเคชัน- เริ่มใช้บัญชีของคุณ
เมื่อการตรวจสอบเสร็จสิ้น คุณจะได้รับการยืนยัน และบัญชีของคุณจะใช้งานได้ คุณสามารถเริ่มจัดการเงิน ย้ายทรัพย์สิน หรือซื้อของออนไลน์ได้ทันที
ข้อดีของการเปิดบัญชีออนไลน์
การเข้าถึงบัญชีทันที
อย่าเสียเวลาอยู่กับงานธุรการจริง เริ่มใช้บัญชีของคุณได้ทันที ค่าธรรมเนียมเป็นศูนย์หรือต่ำ
บัญชีออนไลน์จำนวนมากไม่มีเงินฝากขั้นต่ำและไม่มีค่าใช้จ่ายรายปี
การเข้าร่วมกระเป๋าสตางค์ขั้นสูง
เชื่อมต่อบัญชีของคุณกับกระเป๋าสตางค์ดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น TrueMoney, Bunny LINE Pay หรือ PromptPay
ชำระเงินเป็นงวดและโอนเงิน
ชำระบิลค่าบริการ เติมเครดิตโทรศัพท์ และโอนเงินข้ามประเทศด้วยการแตะเพียงไม่กี่ครั้ง
เปิดประตูสู่ความมหัศจรรย์
เข้าถึงไฮไลท์ต่างๆ เช่น ร้านค้าแบบเติมเงิน บัญชีสำรอง และเงินกู้ล่วงหน้าได้โดยตรงผ่านแอปพลิเคชัน
บัญชีออนไลน์ยอดนิยมในประเทศไทย
ต่อไปนี้คือตัวเลือกที่แนะนำสำหรับการทำธุรกรรมทางอินเทอร์เน็ต:
บัญชี e-Bank ของ KBank
ไม่จำเป็นต้องมีเงินฝากพื้นฐาน
จัดการสินทรัพย์ด้วย K Plus Portable Banking
บัญชีออมทรัพย์ SCB Simple
เปิดบัญชีผ่านแอปพลิเคชัน SCB Simple พร้อมการยืนยันที่รวดเร็ว
ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีสำหรับการแลกเปลี่ยนออนไลน์
บัญชี Krungthai NEXT
ยืนยันการยืนยันตัวตนด้วย e-KYC
เข้าถึงแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT บนมือถือได้อย่างสม่ำเสมอ TTB All Free Computerized Record
ไม่จำเป็นต้องมียอดคงเหลือพื้นฐาน
ให้บริการโอนเงินระหว่างธนาคารฟรี
วิธีการเปิดและจัดการบัญชีแยกประเภทออนไลน์
รับประกันความปลอดภัย:
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันพกพาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ (Google Play หรือ Application Store) ได้ตลอดเวลา
ใช้รหัสผ่านที่ปลอดภัยและเปิดใช้งานการยืนยันแบบสองขั้นตอน
รักษาคลังข้อมูลให้มีประโยชน์:
วางแผนสำเนาขั้นสูงของบัญชีที่ต้องการเพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้า
การสลับหน้าจอ:
ตรวจสอบยอดคงเหลือในบัญชีและประวัติการโอนเงินของคุณเป็นประจำ
การเชื่อมต่อกับกระเป๋าเงินขั้นสูง:
เพิ่มการรองรับโดยเชื่อมโยงบัญชีของคุณกับแอปพลิเคชันการชำระเงินแบบพกพา
การเปิดบัญชีแยกประเภทออนไลน์ในประเทศไทยเป็นกระบวนการที่รวดเร็วและไม่ยุ่งยาก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจัดการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยค่าใช้จ่ายที่ไม่แพง การยืนยันทันที และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพ การธนาคารทางอินเทอร์เน็ตจึงกลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมสำหรับคนในท้องถิ่นและผู้ที่อาศัยอยู่ต่างแดน
หากคุณต้องการเปิดบัญชี ให้เลือกธนาคารไทยที่น่าเชื่อถือ ปฏิบัติตามวิธีการข้างต้น และเพลิดเพลินกับความสะดวกสบายในการจัดการเงินทุนของคุณที่พร้อมใช้งาน